ผักพื้นบ้าน และอาหารริมรั้ว
อะไรก็ตามที่ขึ้นชื่อว่า"พื้นบ้าน"
แล้ว เรามักจะมองกันไปที่ความไร้เดียงสา ความซื่อ บริสุทธิ์ ปลอดสารพิษ หรือเรียกกันให้เก๋ว่า
Non toxic ซึ่งก็มักจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เสียด้วยนะคะ สมัยที่แม่สาลิกายังอบร่ำผิวสีน้ำผึ้งเดือนห้า อยู่กับเปลวแดดแถวบ้านนอกนั้น ผักพื้นบ้านที่ถอดยอดหลังฝน แทบจะเด็ดมาจิ้มน้ำพริกกินได้ โดยไม่ต้องล้างกันเลยทีเดียว ต่างจากผักที่ไปซื้อหามาจากท้องตลาดในสมัยนี้ แม้จะมีป้ายขึ้นว่าผักปลอดสารพิษ แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะนำมาแช่ด่างทับทิมตาม ความเคยชินอยู่ดี ล้างผักแต่ละที แม่สาลิกาแทบจะร้องไห้
เพราะหลายกระบวนการ เหลือเกิน บางทีแช่เอาไว้นานไปหน่อยจนเกือบลืม เกือบจะได้ผักดองก็หลายครั้งเลยทีเดียวค่ะ
เรามาว่ากันด้วยเรื่องผักพื้นบ้าน
อาหารริมรั้วกันดีกว่านะคะ เคยมีข้อถกเถียง กันเหมือนกันว่า อะไรคือผักพื้นบ้าน อะไรคือผักสวนครัว และอะไรคือผักเศรษฐกิจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คำตอบก็ยังไม่กระจ่างอยู่ดี เพราะว่า
ผักแต่ละชนิด ตอนที่เกิดมา มันก็ไม่ได้เลือกไว้ว่าจะทำหน้าที่ใดใน Category ที่เราจะไปจัดให้
เว้นแต่ ผักเศรษฐกิจนั่นแหละค่ะ ที่เห็นโดดเด่นหน่อยเพราะมีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
ผักพื้นบ้านก็คือผักที่มีอยู่ตามริมบ้าน
รั้วบ้าน หลังบ้าน หน้าบ้าน และ ข้างบ้านเรานี่เองค่ะ อย่าลำบากไปหานิยามกันเลยนะคะ เริ่มกันที่ภาคเหนือซึ่งเป็นภาค
ที่แม่สาลิกาชอบชื่อผักของเขาเสียเหลือเกิน แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้หน้าเปื้อนยิ้มได้แล้ว เช่น ผักกุ้มปิ๋ง ผักแซ่ว ผักฮี้ ผักไผ่ ผักจุมปา ผักลีลาว
ผักเซียงดา มะนอยจา บะน้ำแก้ว มะห่อย มะเกี๋ยง และ มะเกว๋น
บางอย่างรูปร่างหน้าตาไม่น่าจะเป็นผัก แต่ก็เป็นผัก แถมอร่อยอีกต่างหากค่ะ
ลองขยับมาทางภาคอีสาน
หากไม่กล่าวถึงผักกระโดน ผักกะแญง ผักอีฮีน ผักตำนิน ผักขิก ผักติ้ว และผักแต้ว ก็คงไม่สามารถผ่านมาได้หรอกนะคะ
เพราะว่า มีให้เห็นเต็มไปหมด รั้วบ้านไหนไม่เห็นต้นมะรุม กระถินผักหวาน
หรือ ก้านตรงแล้วละก็ ให้สงสัยเข้าไว้เลยว่า "บ่แม่นบ้านคนอีสานโดยกำเนิดเด้อ"
เพราะว่าคนอีสานนั้นชอบผักมาก นำผักมาประกอบเป็นอาหาร แล้วยังนำผักมาแกล้มเวลารับประทานอีก หรือจะว่าอีกอย่างก็คือ จองเวรจองกรรมกับผักกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเองค่ะ
มาถึงภาคกลางค่ะ
พืชผักพื้นบ้านของภาคกลาง เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่นเดียวกับภาษากลางที่ใครๆ ก็พูดได้ เลยไม่เป็นที่โดดเด่นมากนัก
แถมที่ หนักข้อเข้าไปก็คือถูกผักเศรษฐกิจประเภท ผักบุ้งจีน กระหล่ำปลี
คะน้า ถั่วฝักยาว บล็อคเคอรี่ และหัวแครอตเข้ามาแทนที่ด้วยแล้ว ดอกแค ดอกขจรแทบร้องไห้ อยู่ในกระทงใบตองเลยเชียว ส่วนยอดกระถิน ก็มีข่าวว่าอุดมด้วยธาตุเหล็ก เลยยังพออยู่ได้ แต่ที่โชคดีที่สุดเห็นจะเป็นกะเพรา เพราะฝรั่งมังค่าเขาช่วยเอาไป ผสมไส้แฮมเบเกอร์ และอาหารฟาสต์ฟู้ดส์หลายชนิด ไม่อย่างนั้นเด็กรุ่นใหม่อาจจะ ยิงฟันเหล็กถามว่า "อาราย-คือ-ผาก-กา-พาว ก๊า? " ก็ได้นะคะ
ลงไปทางด้ามขวานกันค่ะ
พืชพรรณในภาคใต้นี้หลากหลาย และหนาแน่นที่สุด เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น ที่มีมรสุมพัดผ่านทั้งสองด้าน
อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำฝนอย่างเพียงพอ และบางครั้งก็ยังเกินพอด้วยซ้ำ จากการสำรวจพบว่า มีพืชที่กินได้และพืชที่เป็นยามากกว่าสองร้อยชนิดค่ะ
มหัศจรรย์อย่างยิ่ง คนปักษ์ใต้กับคนอีสาน คล้ายกันตรงที่ต้องมีผักสดอยู่ในสำรับด้วยเสมอๆ โดยทางใต้จะเรียก "ผักเหนาะ" เข้าใจว่าการที่ต้องมีผักสดนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอาหารที่มีรสจัด และเผ็ดมาก ทำให้ต้องมีผักสดที่รสจืดกว่า มาตัดกันสักหน่อย
แล้วจะทำให้รสชาติกลมกล่อมพอดียิ่งขึ้น และไม่รุนแรงต่อกระเพาะและลำไส้รวมไปถึงระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการย่อยเท่าใดนักนั่นเอง แต่ผักปักษ์ใต้บางชนิดก็เผ็ดกว่าอาหารนะคะ
แม่สาลิกา
เป็นคนที่เดินทางไปที่ไหน ก็ไม่เคยพลาดที่จะต้องได้รับประทาน อาหารตามที่คู่มือเดินทางแนะนำเอาไว้ ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใดก็ตาม
หัวเด็ดตีนขาด ก็ไม่ยอมเป็นผู้ด้อยโอกาสทางกินอย่างแน่นอน ครั้งล่าสุดที่ไปภูเก็ตแล้วก็มี
Mission ว่าจะต้องไปกินขนมจีนน้ำยาสูตรปักษ์ใต้ให้ได้ พอไปถึงร้านก็สั่งมารับประทานกันทันที ไม่มีการชิมก่อนเลย และแล้วก็พบว่าช่วงนั้นพริกภูเก็ตคงราคาตก เพราะทุกอย่างเผ็ดชนิดพ่นไฟได้ อุตส่าห์คว้าผักที่วางเคียงเอาไว้มาดับเผ็ด
แต่ทว่า อนิจจาเถิด
บุญคงมีแต่กรรมบัง แม่สาลิกาจึงไปคว้าได้ "หยอดมุ๊ย"
กับ "หยอดผริก" มาเคี้ยวเสียเต็มปาก เล่นเอาน้ำตาร่วงอย่างเป็นทางการไปเลย
จากเคราะห์กรรมในครั้งนั้นทำให้รู้ซึ้งขึ้นอีกขั้นว่า ทำไม"เชลล์"จึงต้องชวน"ชิม" เสียก่อนอยู่เสมอ ๆ เพราะไม่เช่นนั้นท่านอาจเป็นเช่นแม่สาลิกาได้นั่นเองค่ะ
ท้ายที่สุด ก็เลยต้องเลิกกินกันไป
เย็นวันนั้นไปเดินเล่นริมหาดป่าตอง
ก็ประเหมาะเคราะห์ดีจ๊ะเอ๋เข้ากับ จอห์น วู ซึ่งมาพักร้อนที่ภูเก็ตพอดีก็เลยเล่าให้เขาฟังเรื่อง
Mission ที่มัน Impossible เมื่อเช้านี้อย่างสนุกสนาน ใครจะเชื่อล่ะคะว่า
ไม่กี่เดือนผ่านไป ก็เกิดหนังฮอลลีวู๊ดเรื่องใหม่ชื่อ Mission Impossible ขึ้นมา
ดังระเบิดไปเลย นี่เป็นเพราะแม่สาลิกากับผักพื้นบ้านแท้ๆ เลยนะคะ ขอบอก
กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้
|