"โตแมง
แตงโม
ผลไม้ลูกโต กับความพ่ายแพ้ของจอมปัญญา"
 เคยรู้จักศรีธนญชัยกันไหมคะ พระเอกแสนกวนในวรรณกรรมล้ำค่า ด้านปฏิภานไหวพริบของชนชั้นสามัญ ที่อาจเอื้อมถึงขั้นล้อเล่นกับเจ้าเหนือหัว ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชเต็มขั้น เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาน่ะค่ะ
แม่สาลิกาประทับใจมากเลยล่ะค่ะ เพราะหลายต่อหลายครั้งที่อ่านไป คิดตามไปแล้วก็นึกไม่ถึงเลยว่าการแก้ปัญหาของศรีธนญชัย จะออกมาในรูปแบบพิลึกพิเรนทร์ แต่ทันเกมแถมมีความสะใจอยู่นิดๆ ตามสไตล์การเขียนวรรณกรรมชาวบ้าน ในสมัยที่สิทธิประชาชนเท่ากับศูนย์ด้วยนะคะ แต่เชื่อไหมคะว่า
เหนือฟ้าย่อมยังมีฟ้า
เหนือยอดหญ้าอย่างไรเสีย ก็ย่อมมีคนย่ำอยู่วันยังค่ำนั่นเองค่ะ ศรีธนญชัยที่เคยหลอกได้ทุกคน กลับมาพ่ายแพ้ต่อรุ่นน้อง วัยไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เพียงเพราะเรื่องแตงโม
จนกระทั่งถึงขั้นตรอมใจตาย
เรื่องมันมีอยู่ว่า
ศรีธนญชัยถูกท้าพนันเฉพาะพระพักตร์ กับคู่ปรับว่าเมล็ดแตงโมในลูกแตงโมเขียวๆ ที่เห็นอยู่นี้จะเป็นสีอะไร
ลองทายไปด้วยกันสิคะ คุณผู้อ่านคิดว่าสีอะไรเอ่ย
แตงโมลูกนี้สุกแล้วค่ะ เพราะว่าเปลือกนั้นเขียวอี๋เลยเชียว ก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าแตงโมมันสุกแล้ว ศรีธนญชัยก็เลยตอบไปอย่างรวดเร็วว่าย่อมเป็นสีดำ แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับบอกสีขาว
. พอแตงโมผ่าออกมา เมล็ดที่เห็นก็ประจักษ์แก่ตาทุกคนว่าเป็นสีดำ แต่ช้าก่อนคุณผู้อ่านและท่านศรีธนญชัยทั้งหลาย เมล็ดแตงโมสีดำนั้นไซร้ ด้านในเข้าไปอีกชั้นนั้นเป็นสีขาว เป็นแหล่งเก็บสะสมพลังของชีวิต ให้ให้สำหรับเผ่าพันธุ์แตงโมซุกซ่อนอยู่ ศรีธนญชัยก็จึงพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังพ่ายแพ้ต่อหน้าธารกำนัล จึงอับอายถึงขั้นจะตรอมใจตายเลยเชียวค่ะ อย่าเพิ่งว่า แม่สาลิกาหลงทางมาวิจารณ์วรรณกรรมเลยนะคะ
ขอนินทาพ่อศรีฯ แกต่ออีกสักหน่อยเถอะค่ะ แม้จะตายอยู่แล้วยังแสบมิใช่เล่น ให้คนรับใช้ย้ายไปนอนในกระท่อมมุงแฝก ที่หลังคาต่ำมากเมื่อพระเจ้าแผ่นดินเสด็จมาเยี่ยม จึงต้องก้มหัวลอดเข้าไปหมอบอยู่แถวเตียงของศรีธนญชัย ทำให้ศรีธนญชัยได้กระหยิ่มใจก่อนสิ้นลมจาก ไปด้วยความคิดที่ว่า กระทั่งเจ้าแผ่นดินนั้นท้ายที่สุดก็ยังก้มหัวให้ศรีธนญชัยเลย
เฮ่อ
. ไม่รู้คิดได้อย่างไรนะคะ
.
ทีนี้มาเข้าเรื่องวิชาการ
อาหารกับสุขภาพกันสักหน่อยค่ะ แตงโมที่ทำให้คนร้อยเล่ห์ช้ำใจตายนั่นน่ะ แท้จริงแล้วมีคุณค่าทางอาหารมหาศาล
ถึงขั้นมีเว็บไซต์ชื่อวอเตอร์เมลอนดอทคอมกันเลยเชียวค่ะ เป็นภาษาฝรั่งมังค่า
แม่สาลิกายังร่ำๆ อยู่เลยว่าจะต้อง มะม่วงดอมคอม มะขามป้อมดอทเน็ท และมะเกว๋นดอทโออาร์จี หรืออะไรทำนองนี้แข่งเชียวค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรให้พูดถึงมากมายเหมือนแตงโมหรือเปล่า
แตงโมเป็นผลไม้ที่อร่อย
หาง่าย กินแล้ว ชุ่มคอ ชื่นใจ อุดมไปด้วยวิตามิน เอ วิตามิน ซี โปรแตสเซียม ไฟเบอร์ ไลโปซีน และแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยต้านมะเร็ง แตงโม 1 ถ้วนั้น ให้พลังงานถึง 50 แคลอรี่ค่ะ
แต่ว่าไขมันนิดเดียวเพียง 0.6 กรัมเท่านั้นเอง รับประทานแทนอาหารเย็นมื้อหนักๆ
รับรองเลยค่ะว่า "อ้วน" ไม่มีวันเฉียดกลายมาใกล้ชีวิตคุณผู้อ่านแน่นอนค่ะ
แต่หากรับประทานมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้นะคะ ดังนั้นจึงควรยึด
"มัชฌิมปฏิปทา" ไว้ก่อนจะเป็นดีค่ะ
แตงโตนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิดค่ะ
ตั้งแต่อาหารคาว เช่น แกงส้มเปลือกแตงโม ยำแตงโม แตงโมอ่อนผัดเปรี้ยวหวาน และอื่นๆ
อีกมากมาย ไปจนกระทั่ง อาหารหวาน เช่นแตงโมลอยแก้ว หรือจะเพียงหยิบเข้าปากเสียง่ายๆ
นั้นก็อร่อย ไปหมดเลยล่ะค่ะ รวมไปถึง ปลาแห้งแตงโม ที่มีแตงโมเย็นเสิร์ฟมาพร้อมกับปลาแห้งป่น ผสมกระเทียมคั่ว และน้ำตาลนิดหน่อย หวานปะแล่ม
ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีให้กินแล้ว แม่สาลิกาจำได้ว่าเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ มีแถวท่าพระอาทิตย์ค่ะ
ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแม่ แต่เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่นครปฐมเสียแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเบื่อหน้าแม่สาลิกาหรือเปล่า ไปนั่งลงทีไรก็สั่งอยู่ได้ ปลาแห้งแตงโม ตอนนี้ไม่มีปัญญาตามไปค่ะ แต่หากความอยากเพรียกหา จนเกินกว่าจะต้านทานแล้วละก็ นครปฐมก็ชั่วลัดนิ้วมือเดียว เท่านั้นเอง
แม่สาลิกามีเพื่อนที่ถึงวัยอันสมควร แก่การสืบทอดอายุพระศาสนาแล้ว
แม่ก็อยากให้บวชก่อนเบียด แต่เพื่อนๆ ก็เป็นกังวลแทนเหลือหลาย
เพราะเข้าใจว่าชาติก่อนเพื่อนคนนี้ คงเคยตักบาตรพระด้วยแตงโมทั้งลูก กุศลผลบุญแต่ชาติปางก่อน จึงมาอุบัติให้ประจักษ์แก่สายตาประชาคม แถวบริเวณที่ใช้อุ้มบาตรของเขา
ซึ่งก็คือพุงกะทิของเขานั่นเอง ด้วยอยากให้เพื่อนได้บวช พวกเราทั้งหลายจึงได้ช่วยกันคิดหาวิธีที่จะให้เพื่อนได้บวช และเดินบิณฑบาตอย่างสบายใจ
ไม่ต้องกังวลว่าญาติโยมจะสับสนไหม ไหนบาตรจริง ไหนบาตรปลอม
ท้ายที่สุดเพื่อนของแม่สาลิกาคนนั้นก็ได้บวชสมใจ แต่หมดปัญหาไปเรื่องซ่อนแตงโมไว้ที่พุง เพราะเขาตรอมใจที่ถูกเพื่อนๆ ล้อเลียน จนแทบกินแทบนอนไม่ได้ มุออกกำลังกายด้วยการยกแก้วเบียร์มันทุกคืน จนตอนหลังแตงโมย้ายมาอยู่แถวกล้ามเนื้อแขน แต่ว่ามันมาลูกเล็กๆ ข้างเดียวคล้ายป๊อบอายตอนผักโขมออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ ดูแล้วแม้จะพิกล แต่ก็ไม่สร้างความสับสนเรื่องตำแหน่งที่แท้จริงของบาตรอีกต่อไปค่ะ
เฮ่อ
โล่งใจแทนเพื่อนเชียวค่ะ คุณผู้อ่านอย่าลืมนะคะ อย่าคิดจะตักบาตรด้วยแตงโมทั้งลูกกันเลยเชียว
ควรจะดำเนินตามนโยบาย พลังงานหารสองค่ะ พระครึ่งหนึ่งเราเองครึ่งหนึ่ง
อย่างนั้นจะดีสำหรับทุกฝ่ายเลยเชียวล่ะค่ะ
กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้
|
