คืนนี้
นอนให้หลับเคล็ดลับความงามกับแกงขี้เหล็กบ้าน
เป็นที่ทราบกันดีนะคะ ว่าร่างกายของเราในแต่ละวันนั้น ผ่านการใช้งานมาอย่างหักโหมเพียงใด ดังนั้นในเวลาค่ำคืน จึงเป็นช่วงที่ร่างกายควรจะได้รับการพักผ่อนบ้าง พักผ่อนที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึง การไปนั่งจ่อมในผับ
ดื่มเหล้าเคล้าแสงนีออน คลอเพลงให้สุขกาย สบายอารมณ์เช่นนั้นนะคะ หมายถึงการพักผ่อนจริงๆ อย่างที่เราเคยเรียนในวิชาสุขศึกษาล่ะค่ะว่า การนอนหลับถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดนั่นอย่างไรละคะ
การนอนหลับถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่จำเป็นมากค่ะ
เพราะว่าช่วงเวลาที่เราหลับสนิทนั้น สมองที่ทำงานหนักมาทั้งวันก็ได้พักผ่อน จิตใจที่วุ่นวายอยู่ตลอดเวลาที่เราลืมตาตื่นก็สงบลง ร่างกายหยุดการเคลื่อนไหว และช่วงนี้เองค่ะ
ที่เกิดกลไกทางเคมีในร่างกาย เพื่อทำการล้างพิษในสมองของเรา
และกระตุ้นเซลล์ที่เหนื่อยล้าให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ และยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรคให้ทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยนะคะ
จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันนี้
ทำให้แพทย์ทั่วโลกได้พบความผิดปกติ ของการนอนมากขึ้น (Sleep Disordered) เช่น การนอนไม่หลับเลยทั้งคืน เมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้า เหมือนเสียงสัญญาณจากนรก
ชวนหวาดผวาเหลือเกิน หรือการนอนหลับมากเกินไป ตื่นมาแล้วแต่งตัวไปทำงาน ก็หลับต่อน้ำลายยืดบนรถเมล์ ชนิดไม่เกรงใจชุดทำงานกันเลย
จนกระทั่งถึงออฟฟิศแล้ว ก็ยังแอบไปงีบต่อในห้องน้ำ ราวกับอดนอนมาแล้วสักเดือน ทั้งที่ความเป็นจริงคือเป็นอย่างนี้ทุกวันค่ะ ส่วนอีกประเภทคือ ตื่นกลางดึกด้วยความตระหนกตกใจอย่างรุนแรง คล้ายๆ กับที่เราเห็นกันในละครโทรทัศน์ เวลานางเอกฝันร้ายน่ะค่ะ สะดุ้งตื่นขึ้นมาและเหงื่อท่วมตัว และสุดท้ายคือ โรคเดินละเมอ ค่ะ ซึ่งอันนี้ไม่เกี่ยวกับโรคที่คุณผู้ชายละเมอ เดินไปห้องคนรับใช้นะคะ นั่นน่ะแก๊กการ์ตูนขายหัวเราะเขาค่ะ
ทั้งหมดในบรรดาความผิดปกตินั้น
เกินกว่าครึ่งเป็นโรคนอนไม่หลับค่ะ คือบางคนหลับยากมาก เริ่มนอนตอนสี่ทุ่ม กว่าจะหลับได้ก็ปาเข้าไปตีสี่
หรือบางคนหลับๆ ตื่นๆ ตลอดคืน จนคนข้างๆ เข้าใจว่าแอบมีทองเท่าหนวดกุ้งซ่อนไว้ เพราะเห็นสะดุ้งจนเรือนไหว อยู่ตลอดเวลาค่ะ หรืออีกบางประเภทก็คือตื่นเช้ากว่าปกติ ตื่นตีสามตีสี่แล้วหลับไม่ลงอีกเลย และประเภทนี้มักจะง่วงอีกทีตอนเข้า ประชุมภาคเช้าค่ะ และประเภทสุดท้ายเท่าที่เรามีข้อมูลนะคะ คือแบบที่คนข้างๆ ยืนยันว่าหลับแน่ๆ เพราะกรนเป็นโรงสีข้าวสลับกับเรือกลไฟอยู่ทั้งคืน แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่หลับเลยจริงๆ
คนที่นอนไม่หลับส่วนใหญ่จะกังวลล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาจะเข้านอน
กลัวจะนอนไม่หลับ หรือเรียกว่า ตีตนไปก่อนไข้ เลยพลอย ไข้ ไปเลยจริงๆ
หากใครที่นอนไม่หลับติดต่อกันเป็นเดือนนั้น ควรพบจิตแพทย์เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์สภาพจิตใจนะคะ ว่าเกิดจากอะไร เครียดเรื่องอะไร จะแก้ไขอย่างไรดี
ซึ่งส่วนมากแล้ว ก็จะมักจะมีทางออกเช่นว่า ให้นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย
และปรับเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา แล้วจะดีขึ้น แต่คนส่วนมากก็จะทำไม่ค่อยได้
เพราะไม่มีเวลามากพอค่ะ
ดังนั้น
หลายคนจึงหันมามองหา ยานอนหลับซึ่งนับว่าอันตรายไม่น้อย เพราะจะไปกดประสาท กล่อมประสาทมากเกินไป และอาจจะทำให้ร่างกายคุ้นเคยกับยา จนหากว่าไม่รับประทานแล้ว ก็จะนอนไม่หลับเลย และที่สำคัญการหลับโดยอาศัยยานั้น บางครั้งจิตใต้สำนึกยังไม่หลับจริง เลยเกิดภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ฝันร้ายทั้งคืนและทำให้สับสนงุนงง ตื่นมาตอนเช้าก็ไม่สดชื่น
แต่กลับง่วงเหงาเซาซึมไปทั้งวัน
ในยุคที่สมุนไพรกำลังจะกลับมานี้
มีสมุนไพรมากมายที่ถูกผลิตออกมา เพื่อแก้ปัญหานอนไม่หลับ เช่น พาสซิฟลอร่า เป็นสมุนไพรจากเยอรมัน
นำเข้ามาในราคาสูงพอสมควร แต่แม่สาลิกาผู้ไม่นิยมรับประทานอะไรในรูปแคปซูล หรือลูกกลอนซึ่งผ่านการแปรรูปมาสารพัดแล้ว ขอแนะนำให้รับประทานแกงขี้เหล็กบ่อยๆ ค่ะ เพราะว่าใบหรือดอกขี้เหล็กนั้น มีคุณสมบัติในการกล่อมประสาทอย่างอ่อนๆ แม้ว่าจะขมอยู่สักหน่อย แต่ก็กลมกล่อมอร่อยลิ้นกว่าแคปซูลค่ะ
หากเราสามารถเลือกปรุงแกงขี้เหล็กเองได้นั้น ใบขี้เหล็กที่จะนำมาแกงจะต้องไม่แก่จนเกินไป
ควรจะเลือกชนิดที่เพิ่งแรกระบัดใบยังเขียวอ่อน ๆ และนำมาต้มน้ำ เพื่อให้ความขมออกไปก่อนสักน้ำสองน้ำนะคะ จากนั้นจึงแกงกับเนื้อเปื่อย หมูสามชั้น
หรือ หอยขมค่ะ รับรองว่าอร่อยล้ำ และหากรับประทานกับข้าวกล้องหุงสุกใหม่ๆ แล้วละก็
ต่อให้เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอมแน่ ๆ เลยค่ะ เพราะว่าหลังรับประทานแกงขี้เหล็กนั้นจะหลับสบายไปทั้งคืน แต่ถ้าเป็นสเต็กแล้วก็จะย่อยไปทั้งคืนเหมือนกันค่ะ
แม่สาลิกามีตำนานกรีกปกรณัม เกี่ยวกับการนอนเพื่อความงามมาเล่าให้ฟังค่ะ คือว่าในสมัยกรีกนั้น เทพีวีนัสผู้ซึ่งเป็นเทพีแห่งความงาม ต้องการจะทดสอบไซคี ผู้เป็นสะใภ้ เลยแกล้งใช้ ให้ทำงานสารพัดก่อนที่จะยอมให้ได้พบหน้าเทพลูกชาย นามคิวปิด งานชิ้นสุดท้ายไซคีต้องทำ คือลงไปนำกล่องความลับแห่งความงามมาจากใต้โลก โดยมีคำสั่งเคร่งครัดว่า อย่าได้เปิดกล่องนี้เป็นอันขาด
ไซคีก็ปฏิบัติภารกิจสุดท้าย ได้เกือบเรียบร้อยแล้ว แต่ในระหว่างทางที่จะนำไปมอบให้แม่สามีนั้น
ไซคีก็เกิดความคิดว่าเมื่อมอบกล่องนี้ไปแล้ว ก็จะได้พบกับคิวปิดทันที คงไม่มีเวลาได้ไปแต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยงามเป็นแน่แท้ ทำอย่างไรดี จะให้คิวปิดเห็นสภาพที่ทรุดโทรมเช่นนี้คงไม่ได้แน่ เลยแอบเปิดกล่องนั้นเพื่อที่จะขอแบ่ง มาใช้ปรุงโฉมตนเองสักหน่อย ผลก็คือ ทันทีที่เปิด เธอก็หลับใหลไปยาวนาน
เมื่อร่างกายเธอพักผ่อนจนเต็มอิ่มแล้ว เธอก็ตื่นขึ้นมาพร้อมความสวยงาม สดชื่นดุจมิเคยผ่านการกรำงานใดๆ มา จึงสรุปกันว่า การนอนหลับคือความลับของความงามค่ะ หลังจากอ่านเรื่องนี้จบ แม่สาลิกาก็เลียนแบบทันทีเลยล่ะค่ะ ผลก็คือว่าเกือบตกวิชากรีกปกรณัม เพราะมัวแต่นอนจนเกือบลืมท่องตำราน่ะสิคะ ดังนั้นจึงอยากฝากเอาไว้ว่าจะ กิน อยู่ หลับ นอน หรืออะไรก็อย่าลืมคำนึงถึงหลัก มัชฌิมปฏิปทา หรือ ทางสายกลาง เข้าไว้ ทำอะไรให้พอดีนั่นแลเป็นดี
นะคะ
กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้
|