สุราเมรยะ หรือสุรารินเป็นระยะ
กับพระนางแมรี่และนางเมรี
สามจอกสี่จอกกรอกเข้า
เมรีขี้เมาก็หลับไป
.ได้ยินกันมานานแล้วใช่ไหมคะ กับคำเรียกหญิงสาวนักดื่มว่า แม่เมรี ซึ่งก็เกี่ยวเนื่องมาจากนิทานพื้นบ้าน เรื่องนางสิบสอง หรือ ตอนหลังได้รับการแต่งเพิ่ม จนกลายเป็นละครนอกเรื่อง
พระรถ-เมรี นั่นเองค่ะ นางเมรี สูญเสียพระสวามีเพราะความเป็นนักดื่ม
ส่วนพระนางแมรี่ทรงสูญเสีย ราชบัลลังก์ด้วยเหตุผลที่ต่างจากนางเมรีโดยสิ้นเชิง
แต่ทั้งสองชื่อที่คลับคล้ายกันนี้ กลับเกี่ยวเนื่องด้วยเครื่องดองของเมาทั้งคู่เลยค่ะ
คนหนึ่งเป็น "ที่มา" และอีกคนเป็น "ที่ไป" ค่ะ
ตำนานของนางเมรี
คงไม่มีการนำมาเล่าซ้ำ เพราะบางทีคุณผู้ชายหลายคน อาจจะบอกว่าอยากรู้จัก ก็ไม่ต้องไปเปิดหรอกละครนอกอะไรนั่นหรอก
เล่มหนายังกับจะเอาไปทำหมอนขวาน ใครจะอ่านเข้าไปไหว ใช้วิธีตามกันไปแถวถนนเพชรบุรีสิง่ายกว่า มี "เมรี" ให้ทำความรู้จักเต็มไปหมดเลยค่ะ
ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ อย่าเพิ่งเข้าใจแม่สาลิกาผิดไปเสียก่อนล่ะ เพียงแต่ชื่อที่เห็นเวลารถติดไฟแดงแล้วมันติดตา มาเท่านั้นเองค่ะ
ส่วนเรื่องของพระนางแมรี่นั้น
ความจริงพระนางจะเป็นนักดื่มหรือไม่ ไม่มีใครมาบอกกล่าวเล่าแจ้งเอาไว้เลยค่ะ แต่ชื่อของพระนางกลับกลายมาเป็นชื่อของค็อกเทลชนิดหนึ่ง ที่ผสมจาก Vodka น้ำมะเขือเทศ ซอสพริก
และ Worchester sauce ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำซีอิ๊ว และเครื่องเทศค่ะ ดังนั้นเมื่อเขย่ากับน้ำแข็งเข้าไปแล้ว จึงทำให้ค็อกเทล ดูเป็นสีแดงคล้ำราวกับเลือด
ค็อกเทลชนิดนี้ก็เลยมีชื่อเต็มๆ ว่า Bloody Mary หรือแม่รี่ผู้กระหายเลือดค่ะ
ซึ่งทำไมค็อกเทลที่สีแดงราวกับเลือด จึงได้ตั้งชื่อตามชื่อพระนางแมรี่
เรื่องมันก็มีอยู่ว่าพระนาง Mary Tudor พระราชินีแห่งอังกฤษ ซึ่งเป็นแคธอลิกองค์สุดท้าย ของราชวงศ์ทิวดอร์ ทรงอับอายมากที่พระเจ้า
Henry VIII พระบิดาได้ทรงแยกตัวออกมาจากนิกาย Roman Catholic มาตั้งนิกาย
Anglican หรือ Church of English ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก Edward
VI ซึ่งเป็นพระอนุชาต่างมารดา ดังนั้นเมื่อพระนางขึ้นครองราชย์ ก็ได้ทรงฟื้นฟูนิกายโรมันแคทอลิคขึ้นมา ให้เป็นศาสนาประจำชาติอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ความรุนแรงเข้าไปจัดการค่ะ แม่ว่าจะมีขุนน้ำขุนนาง หรือกระทั่งที่ปรึกษาราชการวิพากษ์วิจารณ์ หรือยับยั้งอย่างไร พระนางก็หาสดับตรับฟังไม่ ทรงลุยหน้าปฏิวัติไปลูกเดียว ท่ามกลางความนองเลือดของผู้ต่อต้านค่ะ
ในการปฏิวัติครั้งนั้น
ว่ากันว่ามีพวก Protestant เสียชีวิตมากมายเพราะถูกจับแขวนคอ และขุนนางที่ต่อต้าน กว่าสามร้อยคนถูกเผาทั้งเป็น
รวมทั้งพระสังฆราชแห่งอังกฤษ Archbishop of Canterbury และ Thomas Cranmer ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราก็คงถือว่า พระนางทรงก่ออนันตริยกรรมเชียวล่ะนะคะ สั่งฆ่าใครไม่สั่งฆ่า ไปสั่งฆ่าพระสังฆราชผู้ทรงศีล โลกันตร์นรกย่อมเป็นที่พักพิง แห่งสุดท้ายที่ปรายฟ้าเป็นแน่แท้ค่ะ
แต่ฝรั่งมังค่าไม่รู้จักโลกันตร์นรก
เลยอาจจะกลายเป็นสบายใจ ที่สามารถกำจัดลูซิเฟอร์ หรือซาตานที่มาหลอกลวงให้ศาสนิกชน เข้าใจคลาดเคลื่อน
แต่อย่างไรก็ตามคล้ายกับกรรม จะออนไลน์มาตามสนองพระนางค่ะ เพราะว่าต่อมาหลังจากช่วงนั้นไม่นาน สหราชอาณาจักรอังกฤษ ที่อยู่ใต้การปกครองของพระนาง ก็สูญเสียอำนาจในการปกครองแคว้น Calais และราษฎรที่ไม่จงรักภักดี แต่จงเกลียดจงชังทั้งหลาย ต่างขนานพระนามพระนางว่า แมรี่ผู้กระหายเลือด หรือ Bloody
Mary และท้ายที่สุดพระนางก็สิ้นพระชนม์ไปอย่างโดดเดี่ยว ปราศจากทายาทสืบราชบัลลังก์ และพระขนิษฐาต่างมารดา คือพระนางอลิซาเบ็ธก็เสด็จเถลิงถวัลยราชสมับติแทน และฟื้นฟูนิกาย Church of England ให้กลับมาเป็นศาสนาประจำชาติได้อีกครั้งหนึ่งค่ะ
เครื่องดองของเมา
มีกันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาก่อนพุทธกาลอีก ดังนั้นเรื่องต่อไป ก็คงยังไม่หนีไปไหนคงวนเวียนกันอยู่ใกล้ๆ
ขวดกลมๆ แบนๆ นี่แหล่ะค่ะ อย่างไรเสียจะฉลองสงกรานต์ที่หยุดยาวนานเหลือหลายนั้น
ก็อย่าผลอฉลองเสียทุกวันที่หยุดก็แล้วกันนะคะ โดยเฉพาะสาวๆ ค่ะ ความเต่งตึงของเซลล์เราน่ะค่ะ ถูกทำลายง่ายดายมากค่ะ จากการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่หยุดพักผ่อนไปเจ็ดวัน กลับมาทำงานอีกทีเพื่อนจำไม่ได้ เพราะว่าเหี่ยวไปทุกเซลล์
เพื่อนเลยเข้าใจผิดไปว่า ให้ยายมาทำงานแทน "ลูกเรียกยาย" ยังพอไหว แต่ถ้าเพื่อนเรียกเมื่อไหร่
เตรียมกระโดดถังเบียร์ฆ่าตัวตายได้เลยนะคะ
. เพราะมันคงเศร้าวายป่วงเลยล่ะค่ะ
แม่สาลิกาก็กำลังมีนโยบายอยู่ว่า จะไม่รินเป็นระยะกันล่ะคราวนี้
ยืมแนวทาง "เมรีสามจอกสี่จอก" มากรอกตามๆ กันไปให้ไม่ขาดระยะเลยจะดีกว่า
แล้วไม่นานคงประจักษ์ว่า Bloody Madam Cinnamon น่ะ อาจจะมีขึ้นมาจริงๆ เพราะมารดาผู้บอกลากับเมรัยไปนานนม ท่านอาจจะตามมาแพ่นกบาลแม่สาลิกา เข้าให้กระทั่งในเว็บนะซีเจ้าคะ
กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้
|