เมื่อมะหมี่ปะทะมะพร้าว
หากห้าวแล้วอย่าเอาไปขายสวน
"มะหมี่กับมะพร้าว"
สองชื่อนี้กำลังดังระเบิดไปทั้งแผ่นดิน ไม่มีชายใด หญิงใด กระทั่งผู้ที่ยังสงสัยอยู่ว่า จะเป็นชายหรือหญิงดี
ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า มะหมี่ขูดมะพร้าว "มัน" ยิ่งกว่าตอนเอาไปเคี่ยวกะทิเสียอีก
ทำให้แม่สาลิกาต้องแจ้นไปดูเร็วพลันค่ะ
แม้ว่าท่า
"ขูดมะพร้าวสะท้านโลกันตร์" จะชวนฝันอย่างที่ร่ำลือ แต่โดยส่วนตัวแล้ว แม่สาลิกาประทับใจฉากแม่โกสุมทำกับข้าวมากกว่าค่ะ
โอ้โห
นึกว่าหนังโฆษณาผงชูรสมาคั่นรายการค่ะ นั่งน้ำลายไหลไปหลายหยดเลยเชียว
แล้วก็เพิ่งได้ความลับของ "เหง้ากระชาย" มาด้วยนะคะ ว่าสามารถช่วยให้ภรรยาหมายเลขสี่ กลายเป็นหมายเลขหนึ่งได้อย่างไร ในครอบครัวขยาย ที่ความรักเดินทางผ่านปากสู่ท้อง ของหัวหน้าครอบครัว แต่เดี๋ยวอุบไว้ก่อนเพราะ "สำมะคัญ" นักคงจักต้องสาธยายกันอีกเป็นเรื่องยาวๆ นะคะ
อันว่า"มะหมี่"นั้น
จนวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นผลไม้ประเภทไหน และทำไมเซ็กซี่ได้ปานนั้น ส่วน "มะพร้าว"คงเคยคุ้นกันทุกทั่วตัวคนนะคะ
เพราะมะพร้าวผูกพันกับวงจรชีวิตเรา มาตั้งแต่วันเกิดจนวันตายเลยเชียวค่ะ
สมัยก่อน
เมื่อทารกเกิดใหม่
หมอตำแยจะนำรกของเด็กไปฝังรวมกับมะพร้าว ที่เพิ่งแตกหน่อหนึ่งลูก เพื่อปลูกให้เติบโตขึ้นมาพร้อมกัน
จึงเกิดศัพท์คำว่า "รกราก" ซึ่งหมายถึงแผ่นดินถิ่นกำเนิดนั่นเองค่ะ และต่อมา
มะพร้าวก็เริ่มเข้ามามีบทบาท ในวงจรชีวิตเราด้านอาหารการกิน ทั้งในรูปของเนื้อมะพร้าวอ่อน
น้ำมะพร้าวอ่อน กะทิมะพร้าว ซึ่งไปเป็นส่วนผสมของอาหาร ทั้งคาวทั้งหวานสารพัดชนิด
กระทั่งยอดมะพร้าว ก็ยังไปตัดมาผัดหมื่นลี้ค่ะ และเมื่อมีพิธีขึ้นบ้านใหม่ หรือแต่งงานก็จะมีมะพร้าว ที่กำลังแตกหน่อ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญ ไปเบื้องหน้าเป็นของประกอบในพิธีกรรมเสมอ ควบคู่ไปกับกล้วยและอ้อยค่ะ จนกระทั่งในวาระสุดท้ายของชีวิต "น้ำมะพร้าว" ก็ได้รับเลือกให้ชำระใบหน้าคนเรา
ก่อนที่จะเดินทางไปโลกใหม่ เพราะเชื่อกันว่าเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด ไม่เคยมีสิ่งใดเข้าไปแผ้วพานมาก่อน แม้กระทั่งอากาศค่ะ
ในแง่โภชนาการนั้น
เนื้อมะพร้าวมีประโยชน์นะคะ เพราะอุดมไปด้วยไขมัน ที่สำคัญต่อร่างกาย ตำราจีนบันทึกไว้ว่า น้ำกะทิสดมีคุณค่าบำรุงโลหิต แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีการอักเสบภายใน ส่วนน้ำมะพร้าวมีคุณสมบัติแก้กระหาย
และขจัดอาการบวมน้ำได้ค่ะ ชาวเกาะบางแห่ง นำน้ำมะพร้าวอ่อนใส่ตุ่มฝังดินไว้
เพื่อใช้รักษาอาการปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้ได้ ชนิดครอบจักรวาลเลยล่ะค่ะ
และไม่มีอาการข้างเคียง เหมือนยาแผนปัจจุบันด้วยนะคะ แต่อาจจะทำยากสักหน่อยค่ะ
เพราะจะต้องฝังไว้นานถึง 1 ปีเลยทีเดียว จึงจะใช้การได้
สำหรับผู้ที่เมาค้างบ่อยๆ
นั้น ตำราจีนแนะนำว่า ให้นำถั่วดำมาตุ๋นกับมะพร้าวอ่อน แล้วดื่มแต่น้ำนะคะ ซินแสท่านรับรองว่า หายเป็นปลิดทิ้งค่ะ
แต่หากเผลอกินเนื้อมะพร้าว และถั่วดำเข้าไป ก็ไม่รับประกันนะคะว่า จะเมาต่ออีกหรือเปล่า
ยุคของการ
"คิดใหม่ ทำใหม่" ทำให้คนสมัยนี้จะพูดจะจาอะไร ก็ต้องไปผิดเพี้ยนไปจากของเดิมค่ะ ถึงจะนับว่าเป็นของกิ๊บเก๋ วันนี้แม่สาลิกาก็เลยมีสำนวนสมัยใหม่มาฝากค่ะ คือ "อย่าเอามะพร้าวห้าว ไปขายสวนสาวสามสิบ"
เพราะมะพร้าวห้าวนั้น หากนำไปขูด ไปคั้น แม้ว่ามันจะให้กะทิชั้นเยี่ยม
แต่เขาก็เรียกชื่อกันทั่วไปว่า "มะพร้าวทึนทึก" ค่ะ สาวสามสิบได้ยินแล้วจะสะดุ้งจนเรือนไหว
ดังนั้น จึงต้องเตือนกันเอาไว้ ก่อนจะนำสำนวนนี้ไปใช้ โปรดเหลียวซ้ายแลขวากันให้ดีก่อน ว่าปลอดสาวมะพร้าวห้าวแล้ว เพราะหากใช้ผิดที่ผิดทาง ประเหมาะเคราะห์ร้าย
อาจจะได้เจอน้ำมะพร้าวทึนทึกมาประทินผิวหน้าก่อนเวลาอันสมควรได้นะคะ ถึงเวลานั้นละก็ ตัวใครตัวมัน ตัวอีฉันก็ท่องคาถาอาจารย์โกยเหมือนกันนะเน้อ
กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้
|