ฤทธิ์ดาบสองคมจอมยุทธแป๊ะก๊วย
เพียงเสี้ยววินาทีที่เงาดาบสายหนึ่งวูบผ่าน
ผู้เฒ่าแห่งหุบเขาซมซานก็กลับมี ความทรงจำที่เด่นชัดขึ้นมา อาการสมองเสื่อมของท่านหายไปแล้ว
ผู้เฒ่ากำลังจะโค้งด้วยความสำนึก ในบุญคุณยอมยุทธลึกลับผู้นั้น แต่ยังมิทันได้เอ่ยวลีใด
ผู้เฒ่ากลับกระอักเลือดสีแดง รินไหลออกมามิขาดสาย จอมยุทธลึกลับสะบัดดาบเก็บเข้าฝัก และหัวเราะร่าสลับกับหลั่งน้ำตาให้ท่านผู้เฒ่า
"ท่านคือใครกันแน่
ทำไมจึ่งทำเยี่ยงนี้กับข้า อาการสมองเสื่อมข้าหายไป แต่ไฉนข้ามีอาการเลือดไหลมิหยุดมาแทน" ผู้เฒ่าครวญออกมาอย่างอ่อนล้า
"ข้าคือจอมยุทธแป๊ะก๊วย
เจ้าของดาบสองคมผู้โด่งดังในยุทธจักร ข้าเสียใจที่ทำให้ท่านเลือดไหลไม่หยุด แต่ท่านก็เป็นคนเรียกร้องให้ข้า มาบำบัดสมองของท่านเอง ให้หายจากอาการเสื่อมมิใช่หรือ"
ผู้เฒ่าผงกศีรษะรับคำอย่างจำนนต่อเหตุผล
ใช่แล้ว! เขาคือจอมยุทธแป๊ะก๊วย เจ้าของดาบสองคม ผู้พิฆาตอาการสมองเสื่อม แต่กลับก่อให้เกิดอาการเลือดไหลไม่หยุด ในทุกผู้ที่เรียกร้องหาเขา ในห้วงปัจจุบันนี้ ยังมิอาจมีผู้ใดทราบว่า
เขากำลังมุ่งหน้าสู่เคล็ดลับวิชาใด แม้กระทั่งยอดซินแส "ออยอ" แห่งสำนักหมั่นโถว และบัวหิมะ ที่รับผิดชอบดูแลอาหารและยาให้กับชาวยุทธจักร
ทันทีที่ได้ยินชื่อ"แป๊ะก๊วย"
แม่สาลิกาก็นึกไปถึง จอมยุทธในหนังจีนกำลังภายในทั้งหลาย ที่มีชื่อลงท้ายและขึ้นต้นกันด้วยคำว่า
"ก๊วย" จอมยุทธเหล่านั้น มีทั้งข้อดีและข้อเลวอยู่ในคนคนเดียวทั้งสิ้น "แป๊ะก๊วย"
ก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าจะเมื่อไม่นานมานี้ จะได้เป็นพระเอกในการรักษา อาการสมองเสื่อมอยู่หยกๆ แต่กลับต้องมาตกเป็นฝ่ายผู้ร้ายเสียแล้ว เมื่อถูกค้นพบว่ามีผลข้างเคียง ก่อให้เกิดอันตรายอย่างอื่น ซึ่งอาจจะรุนแรงกว่าสมองเสื่อมตามมา
หลังจากที่กระแสการบริโภคสารสกัด จากแป๊ะก๊วยรักษาอาการสมองเสื่อม กำลังจะระบาดไปทั่วประเทศ องค์การอาหารและยาก็ออกมาประกาศว่า
ยังไม่มีผลวิจัยใดๆ มายืนยันเป็นที่แน่ชัดว่า สารสกัดจากแป๊ะก๊วย
(Ginlkngo Biloba Extract) สามารถรักษาโรคสมองเสื่อมได้ นอกจากนั้นแล้ว หากได้รับมากเกินไป อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วย
ฟังดูแล้วน่ากลัว ถึงขั้นทำให้แม่สาลิกาเต้นแร้งเต้นกา ไปคุยกับผู้เชียวชาญด้านสมองเสื่อมทันที
ความจริงโรคสมองเสื่อมนั้น
เกิดจากสาเหตุหลายประการ เกินกว่ายาเพียงตัวใดตัวหนึ่ง จะรักษาให้หายได้ ทั้งเกิดจากการเสื่อมสลายของเนื้อสมอง
การติดเชื้อในสมอง การแปรปรวนของเมต้าโฟลิกในร่างกาย หรือศีรษะถูกกระทบกระแทกอยู่เสมอ ตลอดจนเป็นตามกรรมพันธุ์ การรักษาที่ดีที่สุดก็คือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เท่านั้น เพราะร่างกายที่แข็งแรงย่อมทำให้ระบบอื่นๆ ฟื้นสภาพกลับมาดีได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับสารสกัดจากแป๊ะก๊วยนั้น
หากยังจะบริโภคกันต่อไป ก็จะต้องระวังให้ดี เพราะว่ามีผลด้านกีดกันการเกาะกันของเกล็ดเลือด จึงควรระวังในผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anti-Coagulants) เช่น ยา Warfarin
และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดทั้งหลาย นอกจากนี้แล้วหากบริโภคมากเกินไป ยังจะมีอาการข้างเคียงด้วย เช่น ปวดศีรษะ มึนงง วิงเวียน
ปั่นป่วนในทางเดินอาหาร อาการแพ้ทางผิวหนัง ระบบหายใจผิดปกติ และหลอดเลือดผิดปกติ
ง่วงซึม และระบบการนอนหลับ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ในขณะที่แม่สาลิกา กำลังสนทนาธรรมกับผู้เชี่ยวชาญอยู่นั้น
ม้าเร็วจากซินแส "ออยอ" ก็ห้อตะบึงมาฝุ่นตลบ และยื่นสารลับ อันเกี่ยวเนื่องกับจอมยุทธแป๊ะก๊วยในปัจจุบันให้ความว่าดังนี้
"สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ได้ระบุข้อกำหนดในการใช้สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย ดังนี้
(1)
ในการใช้สารสกัดแป๊ะก๊วย เป็นยาแผนปัจจุบัน จะต้องมีข้อบ่งใช้สำหรับผู้ที่เป็นโรคเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ
รวมทั้งโรคของหลอดเลือด ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิวหนังผิดปกติ โดยจัดเป็นยาอันตราย ต้องขายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบัน และไม่ให้มีโฆษณาสรรพคุณต่อสาธารณะ
(2)
ในการใช้สารสกัดแป๊ะก๊วย เป็นยาแผนโบราณ ให้ขึ้นทะเบียนในลักษณะผสมกับสมุนไพรตัวอื่นๆ มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย และอนุญาตสรรพคุณของตำรับเป็นยาบำรุงร่างกาย
(3)
ในการใช้สารสกัดแป๊ะก๊วย เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จะต้องได้รับใบสำคัญการใช้ฉลากอาหาร และจะต้องไม่ระบุสรรพคุณใดๆ ในการบำบัดรักษาโรคเลย"
จากสารนี้ทำให้ทราบว่า
แม้จอมยุทธแป๊ะก๊วยจะเก่งกาจนัก แต่ก็ยังไม่ใช่วีรบุรุษ ผู้ที่จะพิทักษ์ร่างกายได้ครอบจักรวาล แม้จะเป็นผลดีต่อระบบสมอง แต่ก็เป็นผลร้ายต่อระบบเลือด ดังนั้นหากจะใช้บริการ เอ๊ย จะบริโภคก็ควรจะพินิจพิจารณาให้ดีนะคะ ที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่า เราเป็นหนึ่งในผู้ต้องห้าม สำหรับการบริโภคสารสกัดแป๊ะก๊วยหรือไม่ค่ะ หากไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านอาจจะเจอฤทธิ์ดาบสองคมเข้าให้ แล้วจะหาว่าแม่สาลิกาไม่บอกกล่าวกันนะเจ้าคะ
กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้
|